วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

โผล่อีกอนุบาลน่าน นมบูด อาเจียนวุ่นทั้งรร.

นร.โรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัดน่าน ดื่มนมที่เทศบาลจัดซื้อให้ถึงกับอาเจียน ต้องหามส่งรพ.ตรวจสอบข้างถุงยังไม่หมดอายุ ผอ.เผยเด็กดื่มนมบูดมา 3 วันแล้ว นายกเล็กเต้นสั่งตั้ง กก.สอบหาสาเหตุที่แท้จริง...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) เด็กนักเรียนโรงเรียนราชานุบาล โรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัดน่านสังกัดสำนักงานพื้นที่เขตการศึกษา ที่ 1 พร้อมอาจารย์ประจำชั้น พยายามช่วยเหลือเด็กหญิงวรรณกานต์ ลังกาใจ และเด็กหญิงอลิสา ชูสี อายุ 6 ปี นักเรียนชั้นปีที่ 1 ที่กำลังอาเจียนจากการดื่มนมถุงพาสเจอร์ไรส์แล้วเกิดอาการเวียนศีรษะ อาเจียน โดยเด็กหญิงวรรณกานต์กล่าวว่า หลังจากดื่มนมโรงเรียนชนิดพาสเจอร์ไรส์ นมโคแท้ บรรจุถุงละ 200 กรัม ที่ผลิตโดยบริษัท ยู. เอ็ม. โภคภัณฑ์ จำกัด เลขที่ 163/1 หมู่ 7 ต.น้ำโจ้ อ.แม่ทา จ.ลำปาง ก่อนเกิดเหตุครูประจำชั้นได้แจกนมพาสเจอร์ไรส์ให้กับนักเรียนทุกคนในห้องดื่ม เมื่อเด็กบางส่วนในห้องดื่มเข้าไปก็มีเด็กนักเรียนทั้ง 6 คนพากันวิ่งออกมาอาเจียนที่หน้าห้องเรียน จากการตรวจสอบข้างซองนมดังกล่าวพบว่ายังไม่หมดอายุ และจากการตรวจสอบนมที่เหลือส่วนใหญ่ยังเป็นนมที่ดื่มได้อยู่หลังดื่มนมที่ ได้รับการแจกจ่ายแล้วรู้สึกว่ามีรสเปรี้ยว มวนท้อง เวียนศีรษะจึงอาเจียนออกมา ก่อนที่เพื่อน ๆ จะไปแจ้งอาจารย์ประจำชั้น

นางสาวเนตรนภิส ลอวิดาล อาจารย์ประจำชั้นกล่าวว่า ทราบปัญหาจากเพื่อนนักเรียนที่ดื่มนม จึงสั่งให้เก็บนมทั้งหมดและประสานกับ โรงพยาบาลน่านเตรียมนำนักเรียนที่มีอาการอาเจียนจากการดื่มนมบูดทั้งหมด 6 คน แต่ที่มีอาการหนักอาเจียนมากกว่าคนอื่น คือ เด็กหญิงวรรณกานต์ ลังกาใจและเด็กหญิงอลิสา ชูสี โรงพยาบาลน่านได้ส่งรถพยาบาลและเจ้าหน้าที่พยาบาลมารับเด็กพร้อมตรวจ ดูอาการ และแจ้งให้ผู้ปกครองนำกลับไปดูอาการที่บ้านสำหรับเด็กที่ดื่มนมแล้วมี ปัญหานอกจากเด็กในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 แล้ว ยังมีเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ดื่มทั้งห้องจำนวน 40 คน มีอาการมวนท้องแต่ไม่ถึงกับอาเจียน

ด้าน นายเมธี อินธี ผู้อำนวยการโรงเรียนราชานุบาลน่าน กล่าวว่า โรงเรียนได้รับนมจากการที่เทศบาลเมืองน่าน จัดซื้อจัดจ้างวันละ 800 ถุง ขนาด 200 ซีซี. เด็กดื่มนมที่บูดมาเป็นเวลา 3 วันแล้ว พบในเด็กโตที่เห็นนมบูดแล้วจึงเอาทิ้งวันละ 30 – 50 ถุง โรงเรียนไม่มีโอกาสรู้ล่วงหน้าว่านมบูดเพราะไม่สามารถตรวจได้เนื่องจาก ปริมาณนมที่ส่งมาให้เท่ากับจำนวนนักเรียน

หลังเกิดเหตุ นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน เดินทางไปตรวจสอบและแจ้งแพทย์ พยาบาลจากโรงพยาบาลน่าน ไปตรวจร่างกายนักเรียนที่มีอาการคลื่นไส้และอาเจียน พร้อมช่วยนำเด็กส่งโรงพยาบาลน่าน ก่อนให้รวบรวมนมทั้งหมดมาตรวจพิสูจน์ปรากฏว่านมตราโรงเรียนที่ทางโรงเรียน ได้รับมาจาก 2 บริษัท ได้แก่บริษัทเชียงใหม่เฟรชมิลล์ ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ และบริษัทยูเอ็มโภคภัณฑ์ อยู่เลขที่ 163/1 หมู่ที่ 7 ต.น้ำโจ้ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง วันละ 800 ถุง ให้นักเรียนระดับอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยนายสุรพลเปิดเผยว่า นมดังกล่าวเป็นนมที่เทศบาลสนับสนุนด้านงบประมาณ โรงเรียนอื่นๆ เทศบาลได้มอบเป็นนมยูเอสทีให้ เนื่องจากนมยูเอสทีเป็นนมบรรจุกล่อง มีโอกาสเสียยาก แต่นมโรงเรียนที่มีปัญหาบูดครั้งนี้ เป็นความต้องการของโรงเรียนที่ต้องการได้ปริมาณนมจำนวนมาก ในงบประมาณที่มีน้อย เบื้องต้นจะได้ตั้งกรรมการสอบสวน ส่วนสาเหตุนมบูดทั้งๆที่ยังไม่หมดอายุ คาดว่าจะเกิดจากกระบวนการขนส่งที่ อาจจะไม่ดีพอ เช่น การขนย้ายที่ไม่ได้แช่น้ำแข็ง หรืออยู่ในอุณหภูมิที่พอดี อย่างไรก็ตามขณะนี้ตนได้สั่งให้เก็บนมในโรงเรียนราชานุบาลทั้งหมดเพื่อตรวจ สอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

จำนำข้าวโพดน่านกลิ่นโชยสต็อกหายไป300ตัน

มีการตรวจพบสิ่งผิดปกติในการรับจำนำข้าวโพดที่ จ.น่าน ทั้งเจอวัสดุปลอมปน คุณภาพต่ำ แถมข้าวโพดหายไป 300 ตัน เอาลำไยมาใส่ไว้แทน เตรียมตั้งกรรมการสอบ รู้ผลภายใน 30 วัน..

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ประธานคณะกรรมการกลางกลุ่มเกษตรกรแห่งประเทศไทย ในฐานะคณะกรรมการ คชก. นำเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจโกดังรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่หน่วยรับฝาก ปี 2551/2552 ของนางน้อมจิตร หาญยุทธ จ.น่านพบมีวัสดุปลอมปน และข้าวโพดมีความชื้นได้รับความเสียหาย และมีปัญหาคุณภาพต่ำ ขณะที่นางน้อมจิต ชี้แจงว่า ข้าวโพดเสียหายเพราะเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ได้ทำหนังสือแจ้งและมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบแล้ว

นอกจากนี้ที่หน่วยรับฝากข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2551/2552 ของสหกรณ์การเกษตรเวียงสา จำกัด พบว่า มีข้าวโพดหายไป 300 ตัน และยังมีการนำลำไยมาเก็บไว้แทนข้าวโพด จึงได้เสนอให้ตั้งกรรมการอีกชุดเพื่อตรวจสอบความโปร่งใสและเป็นธรรมทั้งฝ่าย ผู้ตรวจสอบและเจ้าของโกดัง โดยให้เสร็จภายใน 30 วัน

วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2553

น่านระดม จนท. เร่งล่าจระเข้ คาดหลุดจากฟาร์ม

จนท. และชาวบ้านที่น่าน ช่วยกันระดมจระเข้ หลังออกไปหาปลาพบลูกจระเข้ติดอวนมา สร้างความหวาดกลัวอย่างมาก เบื้องต้นจะส่งหนังสือไปยังฟาร์ม-สวน เพื่อขอตรวจสอบ หวั่นหลุดออกมา ...

เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่บริเวณลำห้วยทะลุ บ้านวังตาว หมู่ 7 ต.สะเนียนอ.เมืองน่าน จ.น่านได้มีชาวบ้านและ อส. จังหวัดน่าน เร่งระดมค้นหาจระเข้ หลังชาวบ้านหาปลาพบจระเข้ในลำห้วยใกล้หมู่บ้านต่างหวาดกลัวจนไม่กล้าออกไปหาปลา เจ้าหน้าที่จึงได้จัดชุดเฝ้าระวังและออกค้นหาเป็นระยะๆ แต่เชื่อว่าน่าจะไม่มีตัวใหญ่ และจะได้ทำหนังสือขอตรวจสอบสวนสวัสดีที่ชาวบ้านอ้างว่าเคยเป็นสถานที่เลี้ยงมาก่อนและสวนไหมไทยที่ยังมีการเลี้ยงจระเข้อยู่จะหลุดออกมาจากสวนหรือฟาร์มดังกล่าวหรือไม่

ทั้งนี้ มีชาวบ้านบ้านวังตาว หมู่ที่ 7 ตำบลสะเนียน อำเภอเมืองน่าน พร้อมเจ้าหน้าที่ อส.อำเภอเมืองน่านนำโดยนายสิทธิศักดิ์ วงศ์ชูแก้ว ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกัน ได้พากันไปที่ลำห้วยทะลุบริเวณทุ่งนา เพื่อค้นหาจระเข้ ซึ่งชาวบ้านหวาดกลัวว่าจะมีแม่พันธุ์และพ่อพันธุ์หลบซ่อนตัวอยู่หลังจากที่ นายจรูญ อินต๊ะ อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 105บ้านวังตาว หมู่ 7 ต.สะเนียน อ.เมืองน่านจ.น่าน พบลูกจระเข้มาติดตาข่าย ที่บริเวณลำห้วยดังกล่าวมีอายุประมาณ 3-4 เดือน ลำตัวยาวประมาณ 60 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม ลำตัวสีเหลืองปนดำ จากการค้นหาโดยใช้ไม้ตีน้ำและแหวกหญ้าและต้นไม้ที่ขึ้นรอบลำห้วยยาวกว่า 1 กิโลเมตร ที่ทอดยาวไปตามทุ่งนา และสวนของชาวบ้าน กว่า 1ชั่วโมงแต่ก็ยังไม่พบแม่พันธุ์ พ่อพันธุ์จระเข้ดังกล่าว

นายจรูญ กล่าวว่า ชาวบ้านยังรู้สึกหวาดกลัว ไม่กล้าที่จะออกหาปลาและทำสวนใกล้ลำห้วยที่มีบริเวณกว้างและน้ำลึกกว่า2 เมตร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ ปลัดอำเภอ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่จะได้จัดชุดเฝ้าระวังและออกค้นหาเป็นระยะ ๆ แต่เชื่อว่าน่าจะไม่มีตัวใหญ่และจะได้ทำแต่เชื่อว่าน่าจะไม่มีตัวใหญ่และจะได้ทำหนังสือขอตรวจสอบสวนและฟาร์มต่อ

วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553

รถเจ้าคณะจ.น่านชนบาดเจ็บสาหัสเด็กวัดตาย 1 ศพ

รถเจ้าคณะจังหวัดน่าน ประสบอุบัติเหตุยางระเบิด ขณะกลับจากงานบุญวัดป่าเหมือด กู้ภัยเร่งงัดซากรถนำร่างเจ้าคณะส่งโรงพยาบาล...

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2553 เวลา 17:10 น.พ.ต.ท.อธิคม คำเทพ สารวัตรเวร สภ.ท่าวังผา จ.น่าน ได้รับแจ้งอุบัติเหตุ รถยนต์เสียหลักพุ่งชนหลักกิโลเมตร ที่บริเวณถนนสายท่าวังผา - ศิลาเพชร หลักกิโลเมตรที่ 7- 8 บ้านใหม่พัฒนา หมู่ 3 ต.จอมพระ อ.ท่าวังผา จ.น่าน จึงได้เร่งประสานกู้ภัยเข้าช่วยเหลือในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะอีซูซู หมายเลขทะเบียน ม.1157 น่าน

สภาพด้านซ้ายพังยับเข้าไปกว่าครึ่ง มีผู้ไดรับบาดเจ็บรวมจำนวน 6 คน เป็นสามเณร 3 รูป พระภิกษุสงฆ์ 1 รูป และฆราวาส 2 คน จนท.ชุดกู้ภัยจึงได้เร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนำส่ง รพ.ท่าวังผา

แต่พระสงฆ์อีก 1 รูป ทราบภายหลังคือ พระธรรมนันทโสภณ เจ้าคณะจังหวัดน่าน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร อายุ 78 ปี ขาข้างขวาติดอยู่กับคอนโซลหน้าที่ถูกแรงกระแทกบี้อัดเข้ามาในห้องผู้โดยสาร บริเวณด้านหน้าถูกกระจกบาด ศีรษะแตก

โดยมี นายนรินทร์ เหล่าอาริยะ นายก อบจ.น่าน พร้อมด้วยนายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน พร้อมด้วย จนท.ชุดกู้ภัย อบจ.น่านและจนท.ชุดกู้ชีพ รพ.ท่าวังผา นำเครื่องช่วยหายใจเข้าช่วย พร้อมอุปกรณ์และเครื่องช่วยตัดเหล็ก ตัดประตูและงัดเหล็กออก เป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถนำร่างเจ้าคณะจังหวัดน่าน นำส่ง รพ.ท่าวังผา ได้ ท่ามกลางการเฝ้าดูอย่างใจจดใจจ่อของประชาชน พุทธศาสนิกชน ที่ทราบจำนวนมาก ต่อมาจึงได้นำส่งเข้ารักษาตัวต่อที่ รพ.น่าน

จากการสอบถาม นายธีรพันธ์ หงส์เงิน อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 170 บ้านนามน หมู่ 7 ต.สวก อ.เมืองน่าน จ.น่าน เป็นคนขับรถคันดังกล่าว เปิดเผยว่า ได้ขับรถนำคณะทั้งหมดเดินทางไปร่วมงาน ทำบุญวัดป่าเหมือด ต.ศิลาแลง ต.ปัว อ.ปัว จ.น่าน โดยปกติหลวงพ่อจะใช้รถฟอร์จูนเนอร์ แต่วันนี้ได้นำสังฆทาน ข้าวสารอาหารแห้งจำนวนหนึ่งไปมอบให้แก่ชาวบ้านผู้ยากไร้

จึงนำรถกระบะคันนี้ไปแทน และขณะเดินทางกลับ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุยางรถยนต์ด้านหน้า ข้างซ้ายได้ระเบิด จนทำให้รถเสียหลักพุ่งเข้าชนหลักลายข้างถนน และหมุนเข้าพุ่งชนกับกำแพงรั้วบ้านของชาวบ้านและเสาไฟฟ้าในละแวกนั้น จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าวโดยอุบัติครั้งนี้มีผู้ได้รับเจ็บรวมทั้งหมด 6 ราย

บาดเจ็บสาหัส 2 ราย ได้แก่ นายเกียรติคุณ อะทะยศ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 ม.5 ต.ส้าน อ.เวียงสา จ.น่าน และเจ้าคณะจังหวัดน่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่ขาข้างขวาหัก และใบหน้าถูกกระจกบาด ศีรษะแตก โดยขณะนี้ได้นำส่งเข้ารักษาต่อที่โรงพยาบาลน่านแล้ว

ส่วนสามเณร ได้บาดเจ็บจำนวน 3 รูป คือ สามเณรนิวัฒน์ ลีลาเชาวเลิศ อายุ 13 ปี บ้านเลขที่ 196 หมู่ 6 ต.แม่ขะนิง อ.เวียงสา จ.น่าน ขาหักได้รับบาดเจ็บสาหัสรักษาตัวที่รพ.น่าน ,สามเณรปอ แซ่ว่าง อายุ 16 ปี บ้านเลขที่ 124 หมู่ 4 ต.เรือง อ.เมืองน่านจ.น่าน และสามเณรวีระยุทธ วัฒนะตระกูลวงศ์ อายุ 14 ปี บ้านเลขที่ 34 หมู่ 9 ต.น้ำพาง อ.แม่จริม จ.น่าน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

แต่แพทย์ก็ให้นอนดูอาการก่อนและนายเกียรติคุณ อะทะยศ อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 125 หมู่ 5 ต.ส้าน อ.เวียงสา จ.น่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่ศีรษะแตกและเปิดออก บริเวณสมองถูกกระแทกอย่างรุนแรงอาการสาหัสมาก ได้นำตัวส่งต่อที่รพ.น่าน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 20.10 น.

ด้านอาการของพระธรรมนันทโสภณ เจ้าคณะจังหวัดน่าน นายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วยนายนรินทร์ เหล่าอารยะ นายก อบจ.น่าน นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน เดินทางมาเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด

โดย นพ.นิวัตน์ชัย สุจริตจันทร์ ผอ.รพ.น่าน จังหวัดน่าน เปิดเผยว่าเบื้องต้นทราบว่าหลวงพ่อได้รับบาดเจ็บขาด้านซ้ายหัก แต่เมื่อมาถึงรพ.น่านและตนได้ตรวจวินิจฉัยพบว่าท่านได้รับบาดเจ็บสาหัสขาข้างซ้าย หน้าแข้งซ้ายเท้าซ้ายจำนวน 3 จุดหัก และใบหน้าถูกกระจกบาดหลายแห่ง ศีรษะแตก ที่สำคัญ อาการท่านน่าเป็นห่วงเพราะอายุมากและเสียเลือดจำนวนครึ่งหนึ่งของร่างกาย คือ ประมาณ 3 ลิตร จากคนปกติจะมีเลือดในร่างกาย 6 ลิตร แต่ยังมีสติพูดคุยได้บอกว่าปวดต้นคอซึ่งแพทย์จะทำการเอกซ์เรย์อีกครั้ง ขณะนี้ให้น้ำเกลือและเลือดกรุ๊ปโอแล้วเพื่อเตรียมการผ่าตัดดามเหล็กทั้ง 3 จุด อาการโดยรวมยังน่าเป็นห่วงเพราะเสียเลือดมาก